Archives: สัมภาษณ์ศิษย์เก่า

จากใจพี่…สู่ใจน้อง ที่จะทำให้คุณได้รู้ถึงประสบการณ์ ความรู้สึกของรุ่นพี่ ที่อยากจะฝากถึงรุ่นน้องที่กำลังศึกษาอยู่ และกำลังมองหาที่เรียน พบกับ คุณวาสนา ยุทธชุม จบจากสาขาวิชานิเทศศาสตร์ และเค้าคนนี้มีอะไรมาฝากน้องๆ ไปชมกันเลยค่ะ

    สวัสดีค่ะ พี่ชื่อวาสนา ยุทธชุมค่ะ จบจากสาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่นค่ะ เป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาดิจิทัลทีวีและสื่อออนไลน์ค่ะ

ประสบการณ์ในการทำงาน

    สำหรับประสบการณ์ในการทำงานนะคะ ก่อนที่จะมาเป็นอาจารย์ประจำอยู่ที่นี่ ก็คือ…เคยเป็นผู้ช่วยวิจัยวัคซีนไข้เลือดออกค่ะ ที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร ซึ่งเป็นโครงการของเวชศาสตร์ เขตร้อนของมหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ ก็ทำงานเกี่ยวกับประสานงานชุมชน และทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับชุมชนค่ะ

ความสำเร็จในการทำงาน/ผลงานที่โดดเด่น

     ความสำเร็จในการทำงานที่ผ่านมา…ที่คิดว่าตนเองมีผลงานที่โดดเด่น ก็คงเกี่ยวกับการประสานงานชุมชน หรือว่าการทำงานร่วมกับชุมชน และก็ทำงานเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนค่ะ การทำกระบวนการ หรือการพูดบรรยายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ นั่นเองค่ะ

ชีวิตในวัยเรียนเป็นอย่างไร

   อยากจะบอกว่าชีวิตในวัยเรียนเป็นชีวิตที่สนุก สนุกมากๆ ค่ะ จริงๆ แล้วเราเข้ามาในมหาวิทยาลัย เราก็จะไม่ค่อยรู้เรื่องใช่ไหมค่ะ แรกๆ แต่พอเรามีเพื่อนเราก็มีความรู้สึกว่ามันใช้ชีวิตได้สนุกดี และก็มีเพื่อนหลายๆ คนที่มีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน เราก็เลยรู้สึกว่าชีวิตในวัยเรียนมันมีทั้งทุกข์ สุข สนุกสนานมากกว่าค่ะ

สถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันมีผลกับการทำงานอย่างไร และมีการปรับตัวในการทำงานอย่างไร

    สถานการณ์ Covid-19 มีการปรับตัวอย่างไร ก็คงจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี และแพลตฟอร์มต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ค่ะ โดยเฉพาะเรามาเป็นอาจารย์อยู่ที่นี่เราต้องใช้เทคโนโลยีมาทำสื่อการสอนต่างๆ ก็ทำให้มีการปรับตัวด้วยการเรียนรู้วิธีการต่างๆ ใหม่ๆ เพิ่มเติมมากขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบการสอนแบบ Zoom การทำ E-Learning ด้วยโปรแกรมต่างๆ แบบนี้ค่ะ แล้วก็การทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ หรือว่าช่วยสังคมให้ได้มากที่สุดค่ะ

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาอยู่

       อยากฝากอะไรถึงน้องๆ หรอค่ะ อยากจะบอกว่าเรียนน่ะไม่ยาก (นะคะ)..แต่การใช้ชีวิตน่ะยาก การจะใช้ชีวิตต้องมีสตินิดนึง แล้วก็…อยากจะบอกว่าเวลาเราดำเนินชีวิต หรือการที่เราคบเพื่อน หรือไปกับเพื่อน โดยการที่เราไม่ใช่ตัวเราเองอ่ะคะ หรือแม้กระทั่งการที่เราออกจากบ้านมาใหม่ๆ เราเจอบรรยากาศใหม่ๆ เราก็อยากจะเรียนรู้มันให้มากที่สุด ก็อย่าลืมที่จะดึงตัวเองกลับมาในวิชาเรียน หรือในกิจกรรมที่เราเรียนนะคะ กลับมาทำการบ้าน กลับมาทำงานให้ครบ เราต้องใช้สติในการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย แล้วก็ต้องมีความรับผิดชอบในการเรียน และทำหน้าที่ของเรา เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจของคนที่บ้าน เพราะฉะนั้นต้องมีสติในการใช้ชีวิตนิดนึงนะคะ ขอให้น้องๆ ตั้งใจ และกอบโกยชีวิตในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต ก็อย่าลืมดึงตัวเองกลับมา และทำให้มันสำเร็จค่ะ

แนวคิดในการทำงาน / คติประจำใจ

     สำหรับแนวคิดในการทำงานของพี่นะคะ ก็จะมีอยู่ 3 คำที่จะชอบนิยามให้ตนเอง ก็คือ ปจย. ป.แรกก็คือการปรับตัว และเรียนรู้อยู่เสมอ ส่วน จ. ก็คือจริงใจ และให้คุณค่ากับการทำงานค่ะ การให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน เราควรเคารพบุคคลที่ควรต้องเคารพค่ะ สามก็คือ ย. เป็นการยอมรับ ไม่ว่าผลของงานจะออกมาอย่างไร ถ้าเรารู้สึกว่าเราเต็มที่กับมันแล้ว เราก็ต้องยอมรับในผลที่เกิดขึ้นนะคะ ถ้าเราทำออกมาดี แล้วตัวเรารู้สึกภูมิใจการงานที่เราทำ ตัวเราก็ควรที่จะดีใจ และขอบคุณทุกๆ คน หรือในทุกๆ สถานการณ์ที่มันเกิดขึ้น ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ หากทำออกมาแล้วมันยังไม่เป็นที่ยอมรับก้ต้องปรับปรุง และพัฒนาตนเองต่อๆ ไปค่ะ สุดท้ายทัศนคติในการครองตน หรือว่าทัศนคติในการทำงาน คือว่าการทำดีไม่หยุด มันก็คือที่สุดของชัยชนะ ไม่ว่าจะเป็นการคิดดี ทำดี หรือว่าพูดดีต่างๆ นะคะ มันก็ทำให้เราผ่านทุกๆ สถานการณ์ได้เสมอ พี่จะคิดแบบนี้ ก็ท่องเอาไว้ค่ะ

     ทัศนคติประจำใจของพี่คือ ทุกสิ่งมันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ทุกอย่างในชีวิตมันถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ไม่ว่าเราจะอยู่กับสถานการณ์ไหน มันไม่สามารถที่จะแก้ได้ ..สุดท้ายก็ต้องยอมรับมันค่ะ

วาสนา ยุทธชุม

อาจารย์สาขาวิชาดิจิทัลทีวีและสื่อออนไลน์

จากใจพี่…สู่ใจน้อง ที่จะทำให้คุณได้รู้ถึงประสบการณ์ ความรู้สึกของรุ่นพี่ ที่อยากจะฝากถึงรุ่นน้องที่กำลังศึกษาอยู่ และกำลังมองหาที่เรียน พบกับ คุณสโรช ทองกร (ก้อง) จบจากสาขาวิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม และเค้าคนนี้มีอะไรมาฝากน้องๆ ไปชมกันเลยค่ะ

    สวัสดีครับ พี่ก้องครับ ชื่อจริงชื่อ…สโรช ทองกร จบจากคณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม ปี 2557 ครับ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกธุรกิจศูนย์อาหาร สังกัดแผนงานบริหารทรัพย์สิน ที่บริษัทเซนทรัลพัฒนา จำกัด (CPN) ครับ

ประสบการณ์ในการทำงาน

      ประสบการณ์ในการทำงานของพี่นะครับ จุดเริ่มต้นของพี่..พี่คิดว่าพี่น่าจะได้เปรียบกว่าใครหลายๆ คน เพราะว่าพี่ได้มีโอกาสฝึกงานที่ใช้ภาษาอังกฤษแบบจริงจังตั้งแต่เริ่มฝึกงาน แล้วก็ได้พูดคุยกับลูกค้าชาวต่างชาติ เพื่อนชาวต่างชาติที่ทำงานด้วยกัน ซึ่งได้เริ่มอาชีพแรกเป็นอาชีพพนักงานเสิร์ฟในโรงแรมที่ห้องอาหารแห่งหนึ่งในภูเก็ต ต่อมาก็ถูกพิจารณาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าพนักงาน หลังจากนั้นก็ได้ย้ายตัวเองไปทำงานที่ใหม่อยู่ในแผนกงาน Marketing หรือ Sale นะครับ ตรงนี้มันค่อนข้างแตกต่างจากงานที่ทำอยู่มาก มันจะเป็นพวกสื่อโฆษณา ซึ่งในตอนนั้นงานเกี่ยวสื่อโฆษณาบูมมาก ทำให้พี่ได้ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ได้ Connection ได้เริ่มรู้จักพี่ๆ เพื่อนๆ ที่จะสามารถช่วยเหลือเราได้ในอนาคต ต่อมาก็ได้ทำงานในตำแหน่ง supervisor ครับ ตรงนี้ก็เป็นงานที่ค่อนข้างท้าทายมาก เพราะเราต้องบริการลูกค้าในระดับ VIP ระดับราชวงศ์ของต่างประเทศที่มาใช้บริการของสนามบินภูเก็ต ปัจจุบันพี่ก็ได้มาทำงานอยู่ที่ในตำแหน่งของผู้ช่วยผู้จัดการ ที่บริษัทเซนทรัลพัฒนา จังหวัดภูเก็ตครับ

ความสำเร็จในการทำงาน/ผลงานที่โดดเด่น

   ความสำเร็จในการทำงาน ในส่วนของตัวพี่ก็ภูมิใจครับ จากที่เริ่มเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ในห้องอาหารต่อมาก็ได้ขยับขยายเลื่อนขั้นเป็นตำแหน่งหัวหน้า พอได้พัฒนาตนเองอยู่เรื่อยๆ ก็ได้รับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ที่บริษัทเซนทรัลพัฒนา จังหวัดภูเก็ต ก็รู้สึกภูมิใจครับ และรู้สึกประสบความสำเร็จในขั้นหนึ่งของชีวิต ก็อยากให้น้องๆ สู้ๆ ครับ

ชีวิตในวัยเรียนเป็นอย่างไร

   ชีวิตในวัยเรียนเป็นอย่างไร พี่ต้องบอกว่าพี่เป็นคนที่เรียนไม่ค่อยเก่ง แต่พี่ก็ไม่เคยที่จะขาดเรียน ส่งงานครบทุกครั้ง พี่ว่า 2 อย่างนี้มันสำคัญมาก ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยทำงาน หรือทำอะไรก็ตามแต่..ความรับผิดชอบ และการตรงต่อเวลาค่อนข้างสำคัญ ดังนั้นพี่จึงไม่เคยขาดเรียน และก็ไม่เคยที่จะไม่ส่งงาน จะพยายามทำทุกอย่างให้ตรงตามกำหนดตามที่อาจารย์สั่ง ไม่ว่าผลการเรียนจะออกมายังไงก็ตาม หากเราส่งงานครบ พี่ว่ายังไงอาจารย์ก็จะคอยช่วยเหลือเรา ช่วยให้เราผ่านวิชานี้ไปได้ครับ พี่ก็จะพยายามทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ครับ!

สถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันมีผลกับการทำงานอย่างไร และมีการปรับตัวในการทำงานอย่างไร

    สำหรับสถานการณ์ Covid-19 พี่ก็จะมีการประชุมกับผู้บริหารถึงมาตรการสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ ในการป้องกัน หรือดำเนินการอย่างไรให้ห้างสรรพสินค้าเราสามารถเปิดใช้บริการให้กับลูกค้าได้ หลังจากที่ Covid-19 ผ่านพ้นไปครับ

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาอยู่

      อยากจะฝากอะไรกับน้องๆ ที่กำลังศึกษาอยู่…อืม ในมุมมองของพี่นะครับ เน้นว่าส่วนตัว เป็นมุมมองส่วนตัวจริงๆ อยากจะบอกน้องๆ ว่าอย่าเอาแต่เรียนอย่างเดียว ก็อยากให้น้องๆ พยายามเข้าร่วมกิจกรรมกับสาขา กับมหาวิทยาลัยให้เยอะๆ เพราะว่ากิจกรรมพวกนี้ครับ มันเป็นการกระตุ้น และละลายพฤติกรรมของเราให้เข้ากับสังคมได้ง่าย ข้อดีเลยคือ เรามีเพื่อน มีสังคม ดังนั้นเวลาเราหาที่ฝึกงาน หาที่ทำงาน หรือมีปัญหาอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องงาน เราก็สามารถถามกับคนที่รู้จัก หรือคนที่เคยได้ร่วมกิจกรรมกันมาอะไรอย่างนี้ครับ สำหรับตัวพี่แล้วมันส่งผลดีครับ มีเพื่อนที่คอยช่วยเหลือเรา ทำให้เรามีโอกาส มีช่องทางมากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบทางสังคมครับ และมันก็สำคัญจริงๆ เวลาที่เราทำงาน ขอฝากไว้เท่านี้ครับ

สโรช ทองกร

หัวหน้าแผนกธุรกิจศูนย์อาหาร

จากใจพี่…สู่ใจน้อง ที่จะทำให้คุณได้รู้ถึงประสบการณ์ ความรู้สึกของรุ่นพี่ ที่อยากจะฝากถึงรุ่นน้องที่กำลังศึกษาอยู่ และกำลังมองหาที่เรียน พบกับ คุณชลิดา กิตติขจร (เก๋) จบจากสาขาวิชาการบัญชี และเค้าคนนี้มีอะไรมาฝากน้องๆ ไปชมกันเลยค่ะ

     สวัสดีค่ะ ชื่อชลิดา กิตติขจรค่ะ ชื่อเล่น เก๋ค่ะ จบสถาบันราชภัฏกำแพงเพชร เพราะว่าสมัยก่อนมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรยังเป็นสถาบันอยู่นั่นเองค่ะ พี่จบบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี จบตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2541 ค่ะ ปัจจุบันพี่รับราชการ ตำแหน่งนักบริหารงานคลัง หัวหน้าฝ่ายบริหารงานคลัง สังกัดเทศบาลตำบลนครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชรค่ะ

ประสบการณ์ในการทำงาน

     ประสบการณ์ในการทำงานหลังจากที่พี่จบ มันเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งในสมัยนั่นเค้าเรียกกันว่าวิกฤตฟองสบู่ ก็คือมีคนถูกเลิกจ้างงานมากมาย เพราะมันเป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในปี 2541 ในช่วงนั้นมีคนจบจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ มากมาย และยังต้องมาเจอภาวะเศรษฐกิจอีก ก็คือถ้าเราจบมาทำอะไรได้เราต้องทำ! ให้มันมีเงินเดือน ให้มันสามารถเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ได้ ซึ่งพี่ก็จะมีพี่ๆ เพื่อนๆ เราจะมี connection คุยกันอยู่ตลอด อะไรที่เราทำได้ในตอนนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกจ้างที่ อบต. สุขาภิบาล ซึ่งตอนนั้นพี่ก็ได้ไปสอบเป็นลูกจ้างของสุขาภิบาลนครชุมค่ะ หรือก็คือเทศบาลในปัจจุบันนี่แหละ เพราะเมื่อก่อนเค้ายังไม่ได้ยกสถานะก็เลยเป็นสุขาภิบาลค่ะ ทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทะเบียนทรัพย์สิน โดยงานที่ทำก็จะเป็นการเดินสำรวจข้อมูลทรัพย์สินของประชาชนที่มีอยู่ในเขตเทศบาล เพื่อใช้ประกอบการจัดเก็บภาษี เงินเดือนที่ได้ตอนนั้น ด้วยวุฒิ ม.3 ได้เดือนละ 4,100 บาท พร้อมหักประกันสังคมด้วยค่ะ  แต่ช่วงนั้นน้ำมันราคาถูก 8 บาทเอง ก็เลยโอเคอยู่ได้ แต่ถ้าให้พี่พูดตรงๆ ต้องบอกว่าเด็กราชภัฏ 99% เลยโอกาสที่จะตกงานน้อย เพราะว่าเด็กราชภัฏนั่นไม่เลือกงานค่ะ คราวนี้พี่ก็ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่อย่างนี้ ประมาณ 7 ปี ตอนนั้นไม่มีอะไรเปิดสอบเลย จนมาปี 2548 ก็มี อบต. พิษณุโลกเปิดสอบรับราชการ เปิดในตำแหน่งนักวิชาการเงินและบัญชี เลยคิดว่าคราวนี้แหละ…ถ้าได้! เราจะได้ใช้วุฒิที่เราเรียนมา ซึ่งตอนนั้นพี่ก็สอบไว้ 2 ตำแหน่ง ก็คือ C1 เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี 1 และ C3 เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี 3กะไว้ว่าถ้าไม่ได้ C3 ก็เอา C1 นี่แหละ เพราะช่วงนั้นมันสามารถสอบได้ 2 ตำแหน่ง ผลปรากฏว่า C1 สอบไม่ติด เลยคิดว่า C3 ไม่ต้องไปดูแหละ เพราะว่า C3 มันยากยิ่งกว่า C1 อีกนะ จนมีเพื่อนโทรมาบอกว่าพี่รู้ตัวไหมว่าพี่สอบติดเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีแล้วนะ เราก็รู้สึกว่าเอาล่ะทีนี้! เลยแจ้งผู้บริหารว่าเราสอบติดแล้ว อาจจะต้องไปอยู่ที่อื่น ผู้บริหารเค้าก็เลยทำเรื่องไปเป็นนักวิชาการคลัง จนพี่ได้มาบรรจุที่เดิมเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2549 ในตำแหน่งนักวิชาการคลัง ทำงานเหมือนเดิมทุกอย่างเพียงแต่ว่าพี่ได้บรรจุแล้ว ใช้วุฒิปริญญาตรี หลังจากที่พี่รับราชการเป็นนักวิชาการคลังพี่ก็ไตร่เต้ามาเรื่อยๆ จนปี 2557 พี่ก็สอบนักบริหารงานเป็นหัวหน้าฝ่าย เพราะตอนนั้นเรามีความมุ่งมั่น ศึกษาเรียนรู้การทำงานต่างๆ จากพี่ๆ จนได้มาเป็นหัวหน้าฝ่าย ซึ่งปัจจุบันก็เป็นนักบริหารงานคลัง หัวหน้าฝ่ายบริหารงานคลัง สังกัดเทศบาลตำบลนครชุมแห่งนี้แหละค่ะ

ความสำเร็จในการทำงาน/ผลงานที่โดดเด่น

      ผลงานที่โดดเด่น…ด้วยความที่พี่เป็นนักบัญชี จะต้องทำเช็ค หรือเขียนเช็คนี่แหละค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นหน่วยงานที่มีงบประมาณค่อนข้างเยอะ เราก็เลยคิดว่าถ้าเราต้องซื้อเครื่องปริ๊นเช็ค ซึ่งมันก็ปริ๊นเช็คได้อย่างเดียว และมันก็ใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ด้วยความที่เป็นหน่วยงานราชการ อย่างที่รู้ๆกันว่ามันหลายขั้นตอน โน้นนี่นั่น! พี่ก็เลยคิกว่าเครื่องปริ๊นเก่าๆ ของเรามันน่าจะทำประโยชน์ได้ พี่ก็เลยคิดใช้ไฟล์แบบจดหมายเวียนนี่แหละ ซึ่งมันก็ประหยัดเวลา แล้วสร้างแหล่งข้อมูล Databases ให้มันอยู่ใน Excel ส่วนตัวแพทเทิร์นที่เราจะปริ๊นให้มันอยู่ใน Word พอพี่บอกว่าพี่ว่าสร้างไฟล์ปริ๊นเช็คขึ้นมา FC ลูกเพจของพี่ก็ให้ทำทุกธนาคารเลย เพราะพี่เป็นคนลายมือไม่สวย พอปริ๊นออกมารูปแบบสวยงาม ก็มีหน่วยงานต่างๆ ขอไปใช้มากมาย ซึ่งพี่คิดว่ามันเป็นอะไรที่สามารถลดขั้นตอนการทำงาน และเราก็สามารถเอาเวลาที่เรามีไปศึกษางานอย่างอื่นได้ ในขณะเดียวกันพี่ก็เป็นแอดมินเพจของหลายๆ ที่ที่สอนเกี่ยวกับงาน สอนเรื่องระบบการทำงาน สอนเกี่ยวกับระบบบัญชีใหม่ๆ ที่มันมีหนังสือทางการอะไรใหม่ๆ เข้ามา ปัจจุบัน Facebook ของพี่เพื่อนเต็มแล้ว แต่ก็มีคนติดตาม Facebook พี่ประมาณ 14,200 กว่าคน มันก็เป็นความภูมิใจเล็กๆ ของเด็กราชภัฏที่สามารถทำอย่างที่มหาวิทยาลัยอื่นทำได้ และตอนนี้เราก็ทำได้ค่ะ

ชีวิตในวัยเรียนเป็นอย่างไร

      ชีวิตในวัยเรียนของพี่ โอ้โห้!! เป็นอะไรที่สุดๆ ค่ะ ถ้าน้องๆ เคยดูหนังเรื่องน้ำใสใจจริง ราชภัฏกำแพงเพชรเป็นแบบนั้นเลยค่ะ ฮ่าๆ ๆ ถนนลูกรัง โน้นนี่นั่น! แต่มันก็ Happy นะคะ มันมีความสุข แล้วก็พี่จบ ม.6 สายวิทย์-คณิต พี่ไม่มีพื้นฐานบัญชีเลยค่ะ ซึ่งเพื่อนๆ ไปสอบเป็นสายพยาบาลกันหมด มีพี่คนเดียวในกลุ่มเพื่อนที่แยกตัวออกมา เพราะพี่อยากเรียนบัญชี ตอนที่พี่เข้าเรียนปี 1 พี่โชคดีหน่อย เพราะมันจะแบ่งออกเป็น 2 ห้องแล้วเรียนรวมกัน มันจะมีทั้งเรียนบัญชี การตลาด บริหารธุรกิจ มันจะเรียนแบบนี้ทุกวิชา จนปี 2 เราค่อยแยกตามความถนัดของแต่ละคน มันก็เกิดการเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบ ตอนนั้นด้วยความที่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบัญชีเลย เราก็ได้พูดคุยกับท่านอาจารย์อนุ ก่อนที่จะเริ่มเข้าห้องสมุดเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีเพิ่มเติม ซึ่งสมัยเรียนแรกๆ พี่จะยังไม่นั่งแถวแรก พออาจารย์อนุถามพี่ก็จะนั่งก้มหน้า อย่าได้เงยเชียวนะ ฮ่าๆ ๆ เพราะถ้าเงยหน้าเมื่อไหร่ละก็ยัยชลิดาตอบครูมาสิว่าข้อนี้อะไรเลยแหละ จนเรามีความรู้สึกว่าเราต้องทำให้ได้ เราต้องตอบคำถามให้ได้ทุกครั้งที่อาจารย์ถาม พอตอบคำถามได้ พี่ไม่นั่งล่ะแถวที่สอง เปลี่ยนมานั่งแถวแรกเลย แล้วก็เริ่มมีการติวให้เพื่อนๆ ซึ่งตอนนั้นเชื่อไหมค่ะว่าคำถามของเพื่อนๆ ถือเป็นการติวอย่างดีเลยค่ะ พอสอบพี่ก็แทบไม่ต้องอ่านหนังสือสอบเลย เพื่อนๆ ของพี่ก็คือสอบผ่านหมด มันเป็นอะไรที่แบบว่าสนุกอ่ะ

สถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันมีผลกับการทำงานอย่างไร และมีการปรับตัวในการทำงานอย่างไร

      ถ้าถามว่าสถานการณ์ Covid-19 มีผลอะไรกับการทำงาน ก็คือ..อย่างที่บอกว่าเราเป็นราชการนะคะ เราไม่ค่อยมีผลกระทบอะไรกับการทำงานหรอก ส่วนใหญ่ก็จะทำงานตามนโยบายของกรม และดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต Covid-19 แต่ด้วยเรื่องการทำงานในส่วนของงานบัญชี หรืองานการเงินของเรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะมีการอบรมเกี่ยวกับบัญชี จะมีฝึกอบรมโน่นนี่นั่น พอมีวิกฤต Covid-19 การจะจัดอบรมนั้นด้วยความที่ระยะห่าง อะไรหลายๆ อย่างมันไม่ได้ มันก็จะเกิดจากการเรียนรู้โดยปฏิบัติตามหนังสือสั่งการอะไรต่างๆ ออกมา เราก็เหมือนต้องเป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องๆ เราต้องมาศึกษาวิธีการแล้วก็ลง Facebook ให้เค้าปฏิบัติตาม ซึ่งมันก็ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะว่าข้อมูลข่าวสารคนส่วนใหญ่ก็ติดตามทาง Facebook กันอยู่แล้ว มันแทบจะไม่มีผลกระทบอะไรเลยค่ะ

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาอยู่

       อยากจะฝากอะไรถึงน้องๆ ก็คือว่า..อยากให้น้องๆ ภูมิใจในสถาบันราชภัฏกำแพงเพชร เพราะเราคือคนของพระราชา เราไม่ได้มีอะไรด้อยไปกว่ามหาวิทยาลัยอื่นเลย เรามีจุดแข็งของเราก็คือ การที่เราไม่เลือกงาน ไม่ว่าจะเกิดภาวะอะไรนั้น ให้เราแข่งขันกับตัวเราเอง ไม่ว่าหนูจะไปสมัครสอบ หนูก็ไม่ต้องไปสนจำนวนคน เพราะทุกคนต้องอ่านหนังสือสอบเท่ากันหมด ถ้าพวกเราอยากรับราชการนะคะ พี่แนะนำว่าอาชีพรับราชการคืออาชีพที่มั่นคง และมีความก้าวหน้าสูง หากเรารู้จักการประหยัดใช้จ่าย เราอยู่ได้ค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รวยแบบฟู่ฟ่า แต่เราสามารถทำอาชีพเสริมได้ค่ะ แล้วก็สำหรับน้องๆ ที่จะฝึกงานนะคะ เทศบาลตำบลนครชุมยินดีต้อนรับค่ะ มาติดต่อได้เลย สู้ๆ ค่ะ

แนวคิดในการทำงาน / คติประจำใจ

      แนวคิดในการทำงานของพี่ คือไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่าที่จะเรียนรู้และลงมือทำ หากเราทำแล้วเกิดปัญหาให้ใช้ประสบการณ์ในการแก้ปัญหามาแก้ปัญหาในอนาคต และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ต้องมีน้ำใจและแบ่งปัน แล้วเราจะได้สิ่งดีๆ ตามมาอีกเยอะเลยค่ะ พี่เชื่อว่าน้องๆ ของพี่ทำได้ สุขจากการแบ่งปันค่ะ

ชลิดา กิตติขจร

หัวหน้าฝ่ายบริหารงานคลัง

    สวัสดีครับ..ผมพลายชุมพล ยมยอดครับ จบสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ ปัจจุบันผมดำรงตำแหน่งเป็น Division Manager ดูแลแบงก์แอสชัวรันส์ของธนาคารกรุงศรีฯ 2 ภูมิภาค 10 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และปัจจุบันยังประกอบธุรกิจส่วนตัวอีกด้วยครับ

ประสบการณ์ในการทำงาน

    ประสบการณ์การทำงานของผมนะครับ หลังจากที่จบการศึกษาผมก็ได้ไปสมัครงานเป็นพนักงานฝ่ายขายของบริษัทสยามนิสสัน นครสวรรค์ ก็ขายไปประมาณ 6 เดือน…ก็ได้ขยับขึ้นไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย ประมาณ 3 ปี หลังจากนั้นก็ได้ขยับตัวเองเข้ามาสู่วงการของธนาคาร คอยดูแลแบงก์แอสชัวรันส์ เป็นพนักงานประจำสาขา สาขาแรกเลยนะครับ ที่ผมบรรจุนั่นก็คือ สาขาบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ดำรงตำแหน่งมาได้ 3 ปี ก็ได้ขยับมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขายของภูมิภาคครับ ปัจจุบันผมก็ได้ทำยอดขายเป็นที่โดดเด่นตลอดมาจนถึงปี 2559 แล้วก็ได้ขยับขึ้นมาเป็น Division Manager คือตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายแบงก์แอสชัวรันส์ของธนาคารกรุงศรีฯ มาจนถึงปัจจุบันนี้ครับ

ความสำเร็จในการทำงาน/ผลงานที่โดดเด่น

      ความสำเร็จในการทำงาน คือการได้เข้ามารับตำแหน่ง Division Manager ผู้จัดการฝ่ายขายแบงก์แอสชัวรันส์ครับ ส่วนผลงานที่โดดเด่นของผมก็คือ การได้ครองแชมป์ทำยอดขายสูงสุดของภาคเหนือ 3 ปีซ้อน จนทำให้ผมได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการ Division Manager จนถึงปัจจุบันนี้ครับ

ชีวิตในวัยเรียนเป็นอย่างไร

    ส่วนชีวิตในวัยเรียนของผมนะครับ ตั้งแต่มัธยมตอนต้นแล้วครับ ผมก็เป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ มุ่งประสบความสำเร็จ แล้วก็ได้ทำงานหารายได้เสริมช่วยที่บ้านเสมอมาจนเข้าสู่ระดับอุดมศึกษาครับ ก็ยังคงเป็นคนที่มุ่งมั่น ตั้งใจ จนเป็นที่ได้รับความไว้วางใจของทางเพื่อนๆ คณะครูบาอาจารย์ ได้ให้เป็นหัวหน้าหมู่เรียนประจำคณะ และก็จบการศึกษามหาวิทยาลัยมาจนถึงวันนี้แหละครับ

สถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันมีผลกับการทำงานอย่างไร และมีการปรับตัวในการทำงานอย่างไร

    ในส่วนของผลกระทบ Covid-19  แน่นอนครับว่าในหลายๆ ภาคส่วนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน รวมถึงทางส่วนงานเราด้วยครับ ที่เห็นได้ชัดเลยคือกระทบต่อยอดขายขององค์กรที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และผู้บริหารหลายๆ ท่าน ซึ่งทางบริษัทเองก็ได้ปรับเปลี่ยนให้ผู้บริหารปฏิบัติงาน Work From Home หรือทำงานที่บ้าน และวิธีการปรับตัวสู้กับ Covid-19 ก็คือเราได้เพิ่มช่องทางการขายให้เป็นการขายผ่านทาง Line E-mail และสื่อ Social ต่างๆ ซึ่งวิธีนี้ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในยุคสมัยนี้ค่อนข้างดี จริงๆ แล้วหากเรามองในแง่บวกแล้ว Covid-19 ทำให้ยุคสมัยได้เปลี่ยน ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของพวกเรานั่นเองครับ Covid-19 เราจะฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันครับ

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาอยู่

      สำหรับน้องๆ ที่กำลังศึกษาอยู่นะครับ พี่อยากจะฝากแง่คิดในการดำเนินชีวิตในช่วงระหว่างที่เราเรียนว่าชีวิตในวัยเรียนเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุด อยากฝากน้องๆ ว่าทุกๆ ครั้งที่ทางมหาวิทยาลัย หรือทางคณะก็ดีนะครับมีกิจกรรม ก็อยากให้น้องๆ ให้ความร่วมมือ และร่วมในกิจกรรมนั้นๆ เพราะถ้าวันหนึ่งน้องๆ ได้เรียนจบมาแล้ว และได้ผ่านชีวิตการทำงานจะรู้ว่าอะไรหลายๆ อย่างมันยากกว่าตอนที่เราเรียนมากนัก อย่าไปมองนะครับว่าทุกอย่างเหนื่อย อย่าไปมองว่าทุกอย่างยาก อย่าไปเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะต้นทุนของเราอาจจะไม่เหมือนคนอื่นๆ เขา เพราะน้องๆ หลายๆ ท่านอาจจะเรียนเก่ง แต่ก็ไม่ได้ขยัน น้องๆ หลายๆ ท่านอาจจะขยัน แต่ก็ไม่ได้เรียนเก่ง แต่สุดท้ายแล้วนะครับ มันก็อยู่ที่มุมมองและวิธีการคิดของเราครับ หากเรามุ่งมั่นตั้งใจจริงๆ แล้วมันจะส่งผลในภายภาคหน้าในการทำงานของเราว่าเราจะเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จได้ ดูอย่างพี่เป็นตัวอย่าง…เพราะทุกอย่างอยู่ที่วิธีคิดครับ

แนวคิดในการทำงาน / คติประจำใจ

    สำหรับแนวคิดและทัศนคติในการทำงานของผม…ผมเป็นคนที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นหลัก และเน้นการทำงานเป็นทีม ไปคนเดียวไปได้ไว แต่ไปด้วยกันไปได้ไกลกว่าครับ

พลายชุมพล ยมยอด

Division Manager

      สวัสดีครับ ผมนายภคิน ฤทธิมะหันต์ครับ ชื่อเล่น เคน จบจากมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร สาขาวิชาการจัดการทั่วไป ปัจจุบันผมก็ได้เปิดธุรกิจส่วนตัวเป็นของตนเอง ชื่อว่าร้านเชอร์เบ็ท เวดดิ้ง สตูดิโอครับ เป็นร้านเช่าชุดแต่งงาน แต่งหน้าทำผม ออแกไนซ์งานแต่ง ทุกอย่างคือครบวงจรเกี่ยวกับงานแต่งงานหมดเลยครับ

ประสบการณ์ในการทำงาน

      ประสบการณ์ในการทำงานของผม ก็คือ…ผมเริ่มเข้าสู่วงการเกี่ยวกับแต่งหน้า ทำผมตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งตอนนั้นผมอยู่ประมาณ ปวช.1 ครับ โดยอาศัยวิธีครูพักลักจําบ้าง และก็ได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ในสมัยนั้น บวกกับผมเรียนคณะคหกรรมศาสตร์ มันก็จะเรียนเกี่ยวกับเย็บปักถักร้อย จัดดอกไม้ ตกแต่งสถานที่อะไรประมาณนี้ ซึ่งหลังจากที่ผมเรียนจบ ปวช. ผมก็ต้องเรียนต่อปริญญา ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดี ก็เลยปรึกษารุ่นพี่ที่รู้จักกันที่เค้าเรียนสาขานี้ การจัดการทั่วไป เค้าก็แนะนำให้เราลองมาเรียนดู เพราะเราจบจากคหกรรมมา มันสามารถเอามาต่อยอดได้ ถ้าเราต่อทางด้านบริหารธุรกิจมันก็จะสามารถเอามาปรับใช้ร่วมกันได้ดี และผมก็เลือกเรียนสาขาวิชาการจัดการทั่วไป พอจบมาผมก็ได้เปิดกิจการส่วนตัวเลย และตัดสินใจทำธุรกิจนี้ครับ

ความสำเร็จในการทำงาน/ผลงานที่โดดเด่น

       ความสำเร็จในการทำงานของผม ผมประกอบธุรกิจร้านเชอร์เบ็ท เวดดิ้ง สตูดิโอมาได้ประมาณ 7 ปี แล้วครับ ถ้าถามว่าประสบความสำเร็จไหม…ถือว่าประสบความสำเร็จครับ เพราะความสำเร็จนี้ได้จากตัวเราเองจากสาขาวิชาที่เราได้เรียนมา และร้านก็ค่อยๆ ขยับใหญ่โตขึ้นมาเรื่อยๆ ตามแผนที่เราวางไว้ ซึ่งทุกอย่างนั้นจะต้องมีการวางแผนไม่ใช่ว่าคิดจะเปิดก็เปิดได้เลยครับ ผมวางแผนไว้ตั้งแต่ผมเรียนคหกรรมศาสตร์แล้ว ว่าเรียนสาขานี้จบ จะไปทำอะไร จะเรียนอะไรต่อ โดยใช้ทั้งหมดทั้งมวลนี้มาบริหารร้านตัวเองครับ ปัจจุบันผมมีลูกค้าที่เชื่อมั่นในตัวผมมากขึ้น มีลูกค้ามาจับจองชุด แต่งหน้าทำผม โดยไว้วางใจที่จะร่วมงานกับเราครับ ส่วนผลงานที่โดดเด่นของผมหลักเลยๆ คือการแต่งหน้า ทำผม และก็ทำชุดครับ โดยเฉพาะการได้ร่วมงานแต่งหน้า ทำผมให้กับเหล่าดารา นางแบบหลายๆ ท่าน และได้นำชุดของทางร้านไปให้เหล่าดารา นางแบบใส่ถ่ายแบบด้วยครับ ซึ่งนั่นก็เป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดของผมเลยครับ

ชีวิตในวัยเรียนเป็นอย่างไร

      ชีวิตในวัยเรียน ก็คือ…ตอนสมัยเรียนผมไม่ได้เป็นคนเก่งครับ แต่เป็นคนที่พร้อมจะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ทุกๆ วิชาที่เรียน ถ้าวิชาที่ชอบเราก็จะตั้งใจเรียน วิชาที่ไม่ชอบเราก็จะพยายามเรียนครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกๆ วิชาที่ผมเรียนมา ผมได้นำความรู้ตรงนั้นมาใช้ประกอบธุรกิจครับ

สถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันมีผลกับการทำงานอย่างไร และมีการปรับตัวในการทำงานอย่างไร

      ตอนนี้ถ้าถามว่ามีผลกระทบ Covid-19 มากไหม สำหรับผมก็มีผลกระทบ Covid-19 อย่างมากเลยครับ เพราะธุรกิจของเราเป็นธุรกิจรับจัดงานแต่งงาน พอรัฐบาลสั่งหยุดทำกิจกรรมทุกอย่าง ซึ่งไม่รู้ว่าจะถึงปลายปีหรือเปล่า แต่ว่าการปรับตัวของเราจากที่เราจัดงานแต่งงาน เราก็เปลี่ยนมาขายชุดแต่งงานออนไลน์ แล้วก็ทำโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม เพื่อให้ลูกค้าที่อยู่ในช่วง Covid-19 ที่อยากจะได้ชุดแต่งงานราคาถูกๆ ก็สามารถจองไว้ก่อนได้ครับ โดยสามารถใช้ได้ถึงปีหน้า 2564 เลยครับ

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาอยู่

       อยากจะฝากถึงน้องๆ ที่เรียนคณะวิทยาการจัดการ ว่าให้คิด ไตร่ตรอง คือ..ให้คิดอนาคตเราเอาไว้เลยว่าเราจะทำอะไร วางแผนชีวิตของตนเองให้ได้มากที่สุด ชีวิตของน้องๆ ก็จะก้าวกระโดดจากเดิมมากที่สุดเช่นกัน โดยคุณสามารถนำความรู้ที่เราเรียนมาทั้งหมดมาปรับใช้ในการทำงานได้เลยเต็มๆ ครับ

แนวคิดในการทำงาน / คติประจำใจ

      แนวคิดและคติประจำใจในการทำงานของผมนะครับ ก็คือ…ตั้งใจทำงานให้ออกมาดีที่สุด ตั้งใจทำงานให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่สุด เพรางานแต่งงานแต่ละครั้งมันจะมีแค่ครั้งเดียวคือครั้งแรก และก็เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของทุกคนครับ ซึ่งคติประจำใจของผมก็คือ ทำงานด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยเงิน มันเป็นคติประจำใจของผมอยู่ตลอดในการทำธุรกิจครับ

ภคิน ฤทธิมะหันต์

ธุรกิจส่วนตัว

       สวัสดีครับ ผมนายจิระเดช พะยอม ชื่อเล่น เบิร์ด นะครับ จบการศึกษาจากคณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ ปี 2548 ตอนนี้ทำงานในส่วนของพนักงานการเงิน ระดับ 7 ธนาคาร ธกส. สาขาอุ้มผาง สำนักงาน ธกส. จังหวัดตากครับ

ประสบการณ์ในการทำงาน

        ประสบการณ์ในการทำงานของผมนะครับ เริ่มตั้งแต่เรียนจบมา…ผมก็ทำงานที่ธนาคารออมสิน สาขาแม่สอด ซึ่งสาเหตุของการทำงานที่ธนาคารออมสิน สาขาแม่สอดก็เพราะว่าตอนนั้นผมอยู่ปี 4 และได้ฝึกงานอยู่ที่ธนาคารออมสิน สาขาแม่สอด ที่นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน พอทำงานไปได้สักช่วงระยะเวลาหนึ่ง ธนาคาร ธกส.เปิดสอบ ผมก็เลยไปสอบธนาคาร ธกส. พอสอบติด..ผมก็เลยได้ทำงานที่ธนาคาร ธกส.จนถึงปัจจุบัน และตอนนี้ผมก็ยังรับเป็นอาจารย์พิเศษของวิทยาลัยชุมชนตาก สอนในส่วนของวิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น รวมถึงวิชาการจัดการวิสาหกิจชุมชนเบื้องต้นด้วยครับ

ความสำเร็จในการทำงาน/ผลงานที่โดดเด่น

          ความสำเร็จในการทำงานของผมนะครับ สำหรับการทำงานของผมแล้ว..เน้นอย่างเดียวเลยครับ เน้นงาน! เน้นทำ! แล้วก็ทำให้ตัวเองมีความสุขครับ เมื่องานที่เราทำ…ทำให้เรามีความสุข ผลงานที่ออกมาแน่นอนครับ ความสุขก็จะตามมา เพราะนั่นก็คือความสำเร็จ เราจะทำงานทุกงานที่คนอื่นมอบหมายเรา…ให้บรรลุเป้าหมายอย่างที่เค้าตั้งใจให้เราทำงานครับ ผลงานที่โดดเด่น คือ… ตัวผมเองได้เป็นพนักงานที่ได้รับเลือก ให้ได้ขั้นพิเศษทุกปี ได้ขั้นสูงสุดนั่นก็คือ ขั้น A ทั้งหมด 6 ปีด้วยกัน ได้รับรางวัลผลงานนวัตกรรมระดับประเทศของธนาคาร ธกส. ได้รับเลือกเป็นพนักงานดีเด่น ประจำปี 2558-2559 ได้รับเลือกเป็นพนักงานที่มีผลงานดีเด่น หรือว่าดาวเด่นครับ จำนวน 5 ดาวเต็มของธนาคาร ธกส. ครับ

ชีวิตในวัยเรียนเป็นอย่างไร

        ชีวิตในวัยเรียนนะครับ ตอนที่เรียนนั้น…ตั้งใจเรียนครับ บอกตัวเองว่าต้องตั้งใจเรียน เพราะว่าเราไม่มีโอกาสที่จะกลับไปแก้ตัวในการเรียนของเราแล้วครับ ก็คือ เรียนให้สูงที่สุด เรียนให้ต่ำที่สุด อยู่ที่ว่าเราจะเลือกแบบไหนครับ แต่ผมก็เลือกที่จะตั้งใจเรียน ตอนที่เรียนนั้นเรามีกลุ่มอยู่ด้วยกัน 6-7 คน แล้วก็ตั้งใจเรียนกันมาก พอมีกิจกรรมกลุ่ม หรือกิจกรรมในห้องเรียน เรา 6-7 คนก็จะตั้งใจแล้วคุยกัน เพื่อกระจายงานให้ทั่วทุกคน และก็ทั่วทุกกลุ่มในห้องเรียน เพราะส่วนหนึ่งนั้นเราก็จะเป็นแรงผลักดันให้กับเพื่อนๆ ให้ตั้งใจเรียนเหมือนกับพวกเรา ในส่วนของกิจกรรมในช่วงที่เรียน…ผมก็บอกได้เลยว่ากิจกรรมไม่เคยขาด ชอบที่สุดก็คือการได้ร่วมกิจกรรม ชอบที่สุดก็คือการได้เข้าร่วมกับสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมที่ทำงานร่วมกับเพื่อนในห้อง สังคมที่ทำงานร่วมกับเพื่อนๆ คณะอื่นๆ หรือว่าน้องๆ พี่ๆ ในมหาวิทยาลัยครับ

สถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันมีผลกับการทำงานอย่างไร และมีการปรับตัวในการทำงานอย่างไร

       สำหรับสถานการณ์ Covid-19 ในปัจจุบัน ส่วนของผมทำงานในส่วนของธนาคารรัฐวิสาหกิจ อยู่ในสังกัดกระทรวงการคลัง ดังนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงไม่ค่อยกระทบผมเท่าไหร่ ยังไงความมั่นคงนั้นก็เกือบ 100% ครับ แต่สิ่งที่ผมไม่เคยลืม และไม่เคยขาดนั่นก็คือการทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อที่จะประมาณการในส่วนของรายรับเรา และก็รายจ่ายที่จ่ายออกไปไม่ให้เกิดความสิ้นเปลือง สิ่งไหนอดได้ก็คืออด อันไหนห้ามได้ก็คือห้าม อันไหนที่ไม่จำเป็นก็คือไม่จำเป็นครับ เพราะฉะนั้นก็ตัดออกจากชีวิตเราไป เพราะความไม่แน่นอนก็คือความไม่แน่นอนนั่นเองครับ

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาอยู่

         สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากถึงน้องๆ นะครับ เราต้องตั้งใจในสิ่งที่เราเป็นให้ดีที่สุด ตอนนี้เราเป็นนักศึกษาสิ่งที่เราต้องตั้งใจก็คือตั้งใจเรียน และตั้งใจทำกิจกรรมให้ดีที่สุด พออยู่ที่บ้านเราก็ต้องเป็นลูกที่ดีที่สุดของพ่อแม่ ตอนที่ทำงานเราก็ต้องเป็นพนักงานที่สุดในส่วนของสำนักงานครับ

แนวคิดในการทำงาน / คติประจำใจ

       แนวคิดในการทำงานของผมนะครับ ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไขไม่ได้ ถ้าหากปัญหาใดที่เราดูแล้วแก้ไขไม่ได้ ยังไงเราก็ต้องหาทางแก้ให้ได้ครับ วันนี้เราอาจจะจนมุมหาแนวคิดแล้ว.. ยังไงก็แก้ไม่ได้ ง่ายๆ เลยครับสอบถามเพื่อนพนักงาน สอบถามผู้รู้ และเราจะได้คำตอบของมันเองครับ อย่าพึ่งบอกว่าเราทำไม่ได้ เพราะว่าไม่มีสิ่งไหนที่เราทำไม่ได้ครับ จริงๆ แล้วในการทำงานนั้น…เราอย่ามัวตั้งคำถามว่าเราจะได้อะไรจากองค์กร แต่จงตั้งคำถามว่าเราจะช่วยดูองค์กรได้อย่างไรบ้างครับ

       ผมมีคติประจำใจของผมอยู่ครับ นั่นก็คือ…ไม่มีอะไรยาก หากเราลงมือทำ และการลงทุนที่ง่ายที่สุด ก็คือ การลงทุนกับความรู้นั่นเองครับ

จิระเดช พะยอม

พนักงานการเงิน ระดับ 7

แนะนำตัว

          สวัสดีค่ะ พี่ชื่อวิภา รักไทย ชื่อเล่น ส้มค่ะ จบปีการศึกษา 2558 เป็นศิษย์เก่าโปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรค่ะ ปัจจุบันประกอบอาชีพผู้สื่อข่าว ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาค่ะ

ความประทับใจในรั้วมหาวิทยาลัย

          มหาวิทยาลัยฯ แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทำกิจกรรมอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาตนเอง และเสริมสร้างประสบการณ์ ทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเอง รวมไปถึงการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดีค่ะ

ความภาคภูมิใจในการเรียนโปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

           ถ้าถามว่าความภาคภูมิใจในการเรียนโปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์คืออะไร  คงเป็นในเรื่องของการเปิดโอกาส การผลักดันนักศึกษาค่ะ ซึ่งทำให้เราได้ทำในสิ่งที่ชอบจนประสบความสำเร็จในหลายด้านๆ จนถึงทุกวันนี้ค่ะ

ในการทำงานในปัจจุบัน ได้นำสิ่งที่เรียนรู้ ประสบการณ์ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยไปปรับใช้ในการทำงาน หรือในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง

          ในการทำงานปัจจุบัน เราได้นำประสบการณ์ที่สะสมจากการทำกิจกรรมต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยมาพัฒนาตนเองอยู่เสมอๆในการทำงานจริงค่ะ

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาต่อในคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

         อยากจะฝากน้องๆ ให้ตั้งใจศึกษา กล้าคิด กล้าทำ ตั้งเป้าหมาย ทำในสิ่งที่เราชอบเเละรักอย่างเต็มที่ เเละไปให้สุดตามที่เราได้ตั้งไว้ค่ะ แล้วเราจะประสบความสำเร็จค่ะ

3 คำ สั้นๆ ฝากน้องๆ ที่กำลังอ่านบทสัมภาษณ์นี้อยู่

“ขอให้ศรัทธาในสิ่งที่เรียน เเละทำในสิ่งที่รักอย่างมีเป้าหมาย”

วิภา รักไทย

ผู้สื่อข่าว

แนะนำตัว

          สวัสดีค่ะ พี่ชื่อปรียาภรณ์ สามารถกุล ชื่อเล่น ป๊อบ จบการศึกษาปี 2560 โปรแกรมวิชา การบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรค่ะ ปัจจุบันประกอบอาชีพ เจ้าหน้าที่พัสดุและโกดัง ที่บริษัท เพิ่มผลผลิต จำกัด ค่ะ

ความประทับใจในรั้วมหาวิทยาลัย

          น่าจะเป็นตอนปี2 ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสโมสรนักศึกษา บอกเลยว่าการได้ร่วมเป็นสโมสรนักศึกษาในครั้งนั้นมันปลูกจิตสำนึกและให้ประสบการณ์เราในหลายด้านมากๆ เช่น การเสียสละเพื่อส่วนรวม การมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ความสามัคคีในหมู่คณะ ความรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่หรืองานที่ได้รับมอบหมาย  รู้ได้เลยว่านอกจากการเรียนแล้ว เราก็ควรจะทำกิจกรรมควบคู่ไปด้วยจริงๆ ค่ะ

ความภาคภูมิใจในการเรียนโปรแกรมวิชา การบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

          รู้สึกว่าการเรียนบัญชีมันฝึกฝนนิสัยการทำงานหรือทำอะไรต่างๆในชีวิตว่าต้องคิดไตร่ตรองให้รอบครอบ หรือแม้กระทั่งการคิดงบ เราจะคิดทบทวนมากว่า 1 ถึง 2 รอบจนติดเป็นนิสัยไปเลยค่ะ

ในการทำงานในปัจจุบัน ได้นำสิ่งที่เรียนรู้ ประสบการณ์ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยไปปรับใช้ในการทำงาน หรือในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง

          อย่างแรกที่ใช้ก็คงจะเป็นเรื่องการเข้าสังคม การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงานอันนี้ได้เอามาใช้เยอะจริงๆ จากการทำกิจรรมหลายๆ กิจกรรมค่ะ

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาต่อในคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

          อย่างที่รู้ๆ กันว่าน้องๆทุกคนเข้ามาก็เพื่อตั้งใจศึกษาหาความรู้ที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ นอกจากการเรียนในห้องเรียนแล้ว พี่ก็อยากให้น้องๆอย่าลืมทำกิจกรรมควบคู่ไปด้วยมันทำให้น้องๆได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย และสามารถนำไปปรับใช้ได้ในอนาคตจริงๆ ได้ค่ะ

3 คำ สั้นๆ ฝากน้องๆ ที่กำลังอ่านบทสัมภาษณ์นี้อยู่

“ต้อง มา ลอง”

ปรียาภรณ์ สามารถกุล

เจ้าหน้าที่พัสดุและโกดัง

แนะนำตัว

          สวัสดีค่ะ พี่ชื่ออัญธิกา  แสนนอก ชื่อเล่น ออย จบการศึกษาปี 2561 โปรแกรมวิชา การท่องเที่ยวและการโรงแรม คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรค่ะ ปัจจุบันประกอบอาชีพ พนักงานโรงแรม ที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพ ( JW Marriott Bangkok) ค่ะ

ความประทับใจในรั้วมหาวิทยาลัย

          สำหรับออยแล้ว ที่นี่เป็นที่ที่ให้มากกว่าการศึกษา ราชภัฏฯ ให้ความรู้ ราชภัฏฯ ให้ความเป็นพี่น้อง ให้ความอบอุ่นเหมือนครอบครัว สอนให้นักศึกษาทำงานเป็น ส่งเสริมนักศึกษาทั้งทางด้านสื่อ อุปกรณ์และ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเพื่อให้นักศึกษาได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง

ความภาคภูมิใจในการเรียนโปรแกรมวิชา การท่องเที่ยวและการโรงแรม คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

          สำหรับความภูมิใจแรกที่มีก็คือ อาจารย์ค่ะ อาจารย์ทุกท่านคอยสอน และยังท่ายทอดประสบการณ์ที่ท่านมีให้เราได้นำไปใช้ในทุกๆด้าน คอยให้ความช่วยเหลือในทุกๆอย่างเป็นเหมือนพ่อแม่คนที่สอง และความภูมิใจที่สองก็คือ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนที่คอยพึ่งพาอาศัยกันในเวลาที่เราออกทริปต่างๆ ค่ะ

ในการทำงานในปัจจุบัน ได้นำสิ่งที่เรียนรู้ ประสบการณ์ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยไปปรับใช้ในการทำงาน หรือในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง

          สำหรับออยแล้ว ออยว่าก็ได้นำมาปรับใช้หลายอย่างอยู่นะคะ ทั้งในเรื่องความรู้พื้นฐานและประสบการณ์จากการทำกิจกรรมต่างๆ ได้นำมาใช้ในการทำงาน จึงทำให้เราเข้าใจในการปฏิบัติงานในปัจจุบันง่ายขึ้น และบางอย่างเราก็ได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากการทำงานจริง

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาต่อในคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

          ก็อยากจะแนะนำและก็เชิญชวนน้องๆที่กำลังจะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา มาเรียนที่คณะวิทยาการจัดการ เพราะว่าคณะเรามีหลากหลายสาขาให้เลือกเรียน คณะวิทยาการจัดการเน้นให้นักศึกษาเรียนควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติจริง ที่จะทำให้เราได้นำไปใช้กับการทำการทำงานในอนาคตได้ค่ะ

3 คำ สั้นๆ ฝากน้องๆ

ที่กำลังอ่านบทสัมภาษณ์นี้อยู่

“คุณ ทำ ได้”

อัญธิกา  แสนนอก

พนักงานโรงแรม

แนะนำตัว

          สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ วรรณภา ตรงดี ชื่อเล่น โบว์ จบการศึกษาปี 2560 โปรแกรมวิชา การจัดการทั่วไป คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรค่ะ ปัจจุบันประกอบอาชีพ พนักงานบริษัท ที่บริษัท แสงฟ้าอินเตอร์ไรซ์ จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีแสงฟ้าธัญญกิจค่ะ

ความประทับใจในรั้วมหาวิทยาลัย

          ความประทับใจของพี่คือ ประสบการณ์ชีวิตที่ได้มีโอกาสทำกิจกรรมต่างๆ กับทางมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปยังต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ล่ำค่าแก่พี่มากๆเลยค่ะ นอกจากนี้แล้วพี่ยังรักการเล่นกีฬามากๆ ทางมหาวิทยาลัยก็มีกิจกรรมให้เข้าร่วมแข่งขัน  และยังมีทุนการศึกษาหลากหลายประเภทอีกด้วย ซึ่งพี่เองก็ได้เรียนฟรีอยู่หลายเทอม (ได้รับทุนเพชรราชภัฏ ประเภทนักกีฬา) ยิ่งส่งเสริมให้พี่ชอบเข้าร่วมกิจกรรมมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

ความภาคภูมิใจในการเรียนโปรแกรมวิชา การจัดการทั่วไป คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

          สิ่งแรกเลยที่ภูมิใจมากๆ คือ ได้มีโอกาสเจอคณะอาจารย์ที่ดี คอยผลักดันลูกศิษย์ ทำให้เราได้มีบทบาทในตัวเอง และได้เข้าร่วมกิจกรรมดีๆ มาตลอด ซึ่งถือว่าเป็นกำไรชีวิตน่ะ เพราะอยู่ดีๆ ก็มีแบบคนคอยซับพอร์ตเรา และหวังดีกับเราอยู่ตลอดค่ะ จนกระทั่งเราจะจบออกมา ก็ยังมีการแนะแนวการเริ่มต้นชีวิตในการก้าวเข้าสู่วัยทำงาน คณะอาจารย์มีส่วนสำคัญอย่างมากเลยค่ะ ต้องขอบคุณทุกๆ ท่านมากเลยจริงๆ ค่ะ

ในการทำงานในปัจจุบัน ได้นำสิ่งที่เรียนรู้ ประสบการณ์ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยไปปรับใช้ในการทำงาน หรือในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง

          อย่างพี่เรียนสาย Gernaral Management  คำว่า  Management หมายถึง การจัดการ  ซึ่งคำนี้แหละที่อาจารย์มักเน้นย่ำ สู่สมองพวกพี่บ่อยๆเลยค่ะ เราเป็นนักการจัดการ เราต้องจัดการให้ได้ทุกเรื่องค่ะ เรื่องส่วนตัว เรื่องงาน เรื่องนู้นนี่นั่น เราต้องรู้จักบริหารเวลาค่ะ ต้องจัดแจงเลย อะไรสำคัญก่อนหลัง จากนั้นก็ลงมือทำ ตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยไหม ถ้าไม่ก็ปรับใหม่ ก็เป็นทริคง่ายๆที่อาจารย์มักเน้นย้ำ และก็จะไปตรงกับทฤษฎี PDCA (วงล้อเดมิง) ซึ่งมันก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงทีเดียวกับทุกสิ่ง (ยิ่งน้องคนไหนนักกิจกรรม ต้องบริหารให้ดีเลยน่ะคะ) ^^

อยากจะฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่กำลังจะศึกษาต่อในคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

          สำหรับน้องๆ ทุกคนน่ะคะ ที่กำลังจะศึกษาต่อในคณะวิทยาการจัดการ พี่ก็ไม่มีอะไรแนะนำมากนอกจากเวลาเรียนก็ให้ตั้งใจเรียน หากมีกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัยก็ขอให้มีจิตอาสาเข้าร่วมทำกิจกรรมกันเยอะๆ ไม่ได้ทำเพื่ออะไร ก็เพื่อตัวเราเองทั้งนั้น การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆพี่ว่ามันดีนะ ทำให้เราได้เจอสังคมใหม่ๆ ได้เห็น ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ นอกเหนือจากในห้องเรียน

3 คำ สั้นๆ ฝากน้องๆ

ที่กำลังอ่านบทสัมภาษณ์นี้อยู่

” หมั่น ใฝ่ รู้ “

ปล.พร้อมรับกับทุกสิ่ง ทำตัวให้ดี แล้วโอกาสดีๆจะมาหาเรา

วรรณภา ตรงดี

พนักงานบริษัท